ชุดกู้ภัยหลายจังหวัดรวมทีมฝ่ากระแสน้ำช่วยผู้ประสบอุทกภัยตำบลมูโนะ

ชุดกู้ภัยหลายจังหวัดรวมทีมฝ่ากระแสน้ำช่วยผู้ประสบอุทกภัยตำบลมูโนะ พร้อมเผยนาทีชีวิตกระแสน้ำเชี่ยวกรากทำเรือล่ม เจ้าหน้าที่ถูกซัดหายไปกับน้ำ ใช้เวลา 2 ชั่วโมงกว่าจะช่วยทุกคนออกมาได้

(20 ธ.ค.65) นายวิชิตชาติ อุดมลาภเจริญกิจ หัวหน้ามูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก นำทีมเจ้าหน้าที่จากมูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ เขตทุ่งสง หน่วยกู้ภัยสยามรวมใจปู่อินทร์ เขตทุ่งใหญ่ จังหวัดนครศรีธรรมราช มูลนิธิมิตรภาพสามัคคี(ทงเซียเซี่ยงตึ้ง) อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา จำนวน 50 ชีวิตพร้อมเรือ 3 ลำ เข้าร่วมสนับสนุนภารกิจการช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส

นายวิชิตชาติ อุดมลาภเจริญกิจ หัวหน้ามูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก กล่าวว่า ในครั้งนี้ได้รับมอบหมายให้เข้าไปอพยพประชาชนในพื้นที่วิกฤต และนำอาหารและนำ้ดื่มไปมอบให้กับครัวเรือนผู้ประสบภัยที่ยังอยู่ในพื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก ประมาณ 20 หลังคาเรือน แต่เมื่อนำเรือเข้าไปหน้างานภายในบริเวณตลาดมูโนะ ต้องพบกับน้ำท่วมสูงและกระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากรุนแรง ซึ่งเมื่อเทียบกับเหตุน้ำท่วม ก.พ.65 ครั้งนี้ถือว่ารุนแรงกว่ามาก ทำให้ต้องต้องผูกเชือกเป็นแนวเส้นทางการเข้าพื้นที่ ต่อมาขณะที่เจ้าหน้าที่กู้ภัย จำนวน 7 คนนำเรือท้องแบนที่ขนข้าวกล่องและน้ำดื่มเข้าไปในพื้นที่ประสบภัย เรือได้ชนกระสอบทรายที่ชาวบ้านวางไว้ก่อนเกิดอุทกภัยทำให้เครื่องยนต์ดับ และเรือเสียการทรงตัวจนล่มในบริเวณวงเวียนก่อนถึงโรงเรียนบ้านมูโนะ ทำให้เจ้าหน้าที่ทั้ง7คนถูกน้ำซัดเข้าไปอยู่ภายในโรงเรียนที่มีน้ำท่วมสูงและกระแสน้ำที่เชี่ยวกรากทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถพยุงตัวไว้ได้ต้องพยายามลอยตามกระแสน้ำไปหาที่ยึดเกาะบริเวณด้านหลังโรงเรียนบ้านมูโนะ ซึ่งกว่าจะช่วยทุกคนออกมาอย่างปลอดภัยต้องใช้เวลากว่า 2 ชั่วโมง และเรือที่ล่มต้องผูกไว้ในพื้นที่ยังไม่สามารถเก็บกู้ออกมาได้ ทำให้ในวันนี้ไม่สามารถนำข้าวกล่องและนำดื่มไปส่งให้ผู้ประสบภัยที่อยู่ด้านใน

ทั้งนี้จากเหตุการณ์นาทีชีวิตที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นว่าการเข้าพื้นที่เพื่อนำข้าวกล่องไปแจกจ่ายให้วันละหลายรอบจะทำให้มีความเสี่ยงที่จะเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่ ที่เข้าไปช่วยเหลือได้ ประกอบกับมวลน้ำที่ไหลเชี่ยวอย่างรุนแรงอาจทำให้บ้านเรือนประชาชนเกิดการทรุดตัวและไหลไปกับน้ำได้ จึงอยากจะขอให้ผู้ประสบภัยซึ่งได้รับแจ้งว่าส่วนหนึ่งเป็นผู้สูงอายุ ผู้ป่วย และเด็กเล็กที่พักอาศัยอยู่ในบ้านริมฝั่งแม่น้ำโก-ลก อพยพออกมาอยู่ในปลอดภัยก่อนจนกว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เพราะการพักอาศัยอยู่ในพื้นที่วิกฤต ความช่วยเหลือในด้านต่างๆอาจไม่สามารถเข้าไปถึงได้จากปัจจัยเรื่องมวลน้ำที่เสี่ยงทำให้เกิดอันตราย

อย่างไรก็ตามในวันที่ 21 ธ.ค.65นี้จะนำทีมงานกลับเข้าไปอีกรอบ ซึ่งรอบนี้ต้องวางแผนอย่างรอบคอบและรัดกุมมากที่สุด เพื่อให้สามารถนำส่งอาหารเข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยในพื้นที่วิกฤตได้ตามเป้าหมายที่วางไว้

ภาพ: มูลนิธิเซิ่งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก